"ช็อคโกแลตซีสต์" เป็นชื่อที่เรา ๆ ผู้หญิงได้ยินมานานแล้ว วันนี้เรามาไขข้อกระจ่างกันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรค่ะ
โดยปกติภายในโพรงมดลูกจะมีเยื่อบุโพรงมดลูก
ซึ่งจะหนาตัวและมีเลือดคั่ง จากนั้นก็จะสลายตัวเป็นเลือดระดู แต่ในบางคนเยื่อบุโพรงมดลูกบางส่วนไปเจริญผิดที่นอกโพรงมดลูก เช่น ที่รังไข่ ท่อนําไข่ กระเพาะปัสสาวะลําไส้ หรือเนื้อเยื่อต่างๆ ที่ยึดมดลูกไว้
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากมีเยื่อบุโพรงมดลูกที่อยู่ในเลือดประจําเดือนไหลย้อนผ่านท่อนําไข่เข้าไปฝังตัวอยู่ตามที่ต่างๆ ดังกล่าวแล้ว โดยเยื่อบุเหล่านี้จะมีการเปลี่ยนแปลง คือ เกิดการหนาตัว มีเลือดคั่ง และมีเลือดออก เป็นวงจรทุกเดือน เช่นเดียวกับเยื่อบุที่อยู่ในโพรงมดลูก จึงเกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อโดยรอบจนเกิดเป็นพังผืดดึงรั้งอยู่ภายในช่องท้อง ทําให้เกิดการปวดประจําเดือน หรือ ปวดท้องเรื้อรัง
กรณีที่ไปเกิดที่ผิวของรังไข่ มักจะกลายเป็นถุงน้ำหรือซีสต์ ที่มีขนาด เท่าไข่ไก่ หรือผลส้ม และมีเลือดคั่งอยู่ข้างใน เรียกว่า ถุงน้ำช็อกโกแลต หรือ ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate cyst)
โรคนี้พบได้บ่อยในสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่มีอายุ 30-50 ปี และมีโอกาสเป็นมากขึ้น ถ้ามีแม่ หรือพี่น้องเป็นโรคนี้มาก่อน
การรักษา ในรายที่ไม่มีอาการหรืออาการรุนแรงไม่มาก แพทย์อาจให้สังเกตและติดตามอาการเป็นระยะ ในรายที่มีอาการ แพทย์อาจรักษาโดยใช้ยา หรือหากใช้ยาแล้วไม่ได้ผลอาจจําเป็นต้องผ่าตัด
การผ่าตัดมีหลายวิธี อาจจะตัดเฉพาะตําแหน่งของโรค หรือสลายพังผืดออก โดยยังคงเก็บมดลูก ท่อนําไข่ และรังไข่ไว้ สามารถผ่าตัดโดยการส่องกล้องผ่านทางหน้าท้อง แผลจะมีขนาดเล็ก ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อย ทําให้ลดอาการปวดประจําเดือน และเพิ่มความสามารถในการมีบุตรได้ดีขึ้นในรายที่เป็นมาก หรือผู้มีอาการรุนแรงและมีบุตรเพียงพอแล้ว แพทย์อาจพิจารณาแนะนําให้ผ่าตัดเอามดลูกและตัดรังไข่ออกข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง แล้วแต่ความรุนแรงของโรค
อ่านดูแล้วเหมือนจะน่ากลัวแต่ก็ไม่น่ากลัวสักเท่าไหร่ถ้าเราหมั่นดูแล และสังเกตตัวเอง
ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก :
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น